นายอภิชัย ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 2 รับลูกกระทรวงศึกษาธิการเน้นย้ำการแพร่ระบาดของไข้ดำแดงโรคติดต่อในเด็ก

(10 มีนาคม 2568) นายอภิชัย เสนาโยธี ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 (ผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 2) กล่าวว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้ดำแดง (scarlet fever) ซึ่งเป็นโรคติดต่อในเด็ก และได้เน้นย้ำให้ผู้บริหาร ครู สร้างความรู้ความเข้าใจให้กับนักเรียนและผู้ปกครองเกี่ยวกับไข้ดำแดง (scarlet fever) เพื่อจะได้ป้องกันตนเองและดูแลบุตรหลานเกี่ยวกับไข้ดำแดง หากทราบวิธีป้องกันจะทำให้ผู้ปกครองสามารถดูแลและปกป้องบุตรหลานจากโรคนี้ได้อย่างเหมาะสม และดูแลรักษาอย่างได้อย่างทันท่วงที การแพร่กระจายของเชื้อไข้ดำแดง (scarlet fever) นั้น เกิดขึ้นผ่านทางละอองฝอยในอากาศเมื่อผู้ติดเชื้อไอหรือจาม นอกจากนี้ การสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย หรือการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น แก้วน้ำ จาน ชาม ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเช็ดตัว ก็สามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ผู้ป่วยจะไม่แพร่เชื้อหลังได้รับยาปฏิชีวนะที่เหมาะสมอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ฉะนั้นการป้องกันไข้ดำแดง (scarlet fever) จึงสามารถทำได้โดยการปฏิบัติตามสุขอนามัยที่ดี เช่น ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า พยายามไม่สัมผัสตา จมูก และปาก เพื่อป้องกันการนำเชื้อเข้าสู่ร่างกาย หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน สวมหน้ากากอนามัย หากจำเป็นต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วย ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง

สำหรับโรคไข้อีดำอีแดง (scarlet fever) เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยในเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียสเตรปโตคอคคัสชนิดเอ (streptococcus group A) ผู้ป่วยโรคไข้อีดำอีแดงจะมีอาการไข้สูง เจ็บคอ และมีผื่นสีแดงขึ้นตามผิวหนังเกือบทั่วร่างกาย ผื่นดังกล่าวมักเริ่มขึ้นภายใน 24-48 ชั่วโมง หลังเริ่มมีไข้ โดยเริ่มจากบริเวณรักแร้ คอ หรือขาหนีบ แล้วกระจายไปทั่วลำตัว แขน และขา ผื่นมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ คล้ายกระดาษทราย และจะแดงมากเป็นพิเศษตามจุดที่เป็นข้อพับ เช่น ข้อศอก หรือรักแร้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยอาจมีอาการลิ้นแดงคล้ายสตรอว์เบอร์รี ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของโรคนี้

นอกจากนี้ ไข้อีดำอีแดง (scarlet fever) มีอาการเด่นชัดหลายประการ อาการหลัก ๆ ของโรคนี้ ได้แก่

  • ไข้สูงและเจ็บคอ มักมีไข้สูงฉับพลัน ร่วมกับอาการเจ็บคออย่างรุนแรง
  • ผื่นแดงทั่วร่างกาย หลังจากมีไข้ประมาณ 1-2 วัน จะเริ่มมีผื่นแดงเริ่มขึ้นที่รักแร้ คอ ขาหนีบ แล้วลามไปทั่วลำตัวและแขนขาอย่างรวดเร็วภายใน 24 ชั่วโมง ผื่นมีลักษณะเป็นเม็ดหยาบ ๆ เมื่อลูบจะรู้สึกสาก ๆ คล้ายกระดาษทราย ต่อมาก็จะเปลี่ยนเป็นขุย มักไม่พบผื่นที่ฝ่ามือหรือฝ่าเท้า แก้มเปลี่ยนเป็นสีแดง ปกติผื่นแดงจะไม่ได้ลามมาที่ใบหน้า แต่แก้มมักจะเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดคล้ายโดนแดดเผา บริเวณรอบปากจะขาวซีด
  • ลิ้นสตรอว์เบอร์รี ในช่วง 1-2 วันแรกของไข้ ลิ้นอาจมีฝ้าขาวปกคลุม และมีลักษณะเป็นตะปุ่มตะป่ำ คล้ายผลสตรอว์เบอร์รีที่ยังไม่สุกดี ต่อมา ฝ้าขาวจะลอกออก ทำให้ลิ้นมีสีแดงสดและตะปุ่มตะป่ำ คล้ายผลสตรอว์เบอร์รีสุก เรียกว่า “ลิ้นสตรอว์เบอร์รี”
  • ผิวหนังลอก หลังจากผื่นจางหายไปประมาณ 3-4 วัน ผิวหนังจะเริ่มลอกเป็นขุยหรือเป็นแผ่น โดยเฉพาะบริเวณปลายนิ้วมือ นิ้วเท้า รักแร้ และขาหนีบ

ตนขอให้ท่านผู้บริหารสถานศึกษา ครูในสังกัด สพป.ขอนแก่น เขต 2 ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันโรคที่อาจจะเกิดการระบาดขึ้น หากนักเรียน หรือบุตรหลานมีอาการที่สงสัยว่าอาจเป็นไข้อีดำอีแดง ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีโดยเฉพาะเมื่อมีอาการดังต่อไปนี้ ไข้สูงเกิน 38.3°C เจ็บคอรุนแรง ผื่นแดงขึ้นทั่วร่างกาย ลิ้นมีลักษณะเป็นสีแดงสดคล้ายสตรอว์เบอร์รีหากพบอาการควรรีบนำบุตรหลานปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม นายอภิชัย กล่าวทิ้งท้าย